เกษตรแก้จน

ปลูกผักบุ้งแก้จน!

ปลูก ผักบุ้งจีน พื้นที่ 50 ตารางวา ใช้เวลา 25 วัน ขายได้เงิน 7หมื่นบาท

    
การปลูกผักบุ้งเป็นอาชีพเสริมหลังฤดูทำนา เพราะเป็นพืชที่ใช้น้ำน้อยและมีอายุสั้น โดยเฉพาะช่วงที่มีอากาศร้อนเอื้อต่อการเติบโตของผักบุ้ง ใช้เวลาปลูกเพียง 25 วันก็สามารถเก็บผลผลิตขายได้ ต่างจากพืชชนิดอื่นที่ต้องใช้ระยะเวลาตั้งแต่ 1 – 2 เดือนจึงจะเก็บผลผลิตได้ อีกทั้งการปลูกผักบุ้งยังเป็นพืชที่ดูแลง่าย โดยชาวบ้านจะใช้ปุ๋ยจากมูลสัตว์ผสมแกลบ หาได้เองจากท้องถิ่นไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมีหรือยาฆ่าแมลงทำให้ผักบุ้งปลอดสารเป็นที่ต้องการของตลาด โดยแต่ละวันชาวบ้านจะมีออเดอร์ส่งตลาดและลูกค้าขาประจำทั้งร้านอาหาร ร้านเนื้อย่างทุกวันๆ ละกว่า 40 กิโลกรัมต่อราย บางรายนำไปวางขายเองตามตลาด ซึ่งจะมีราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 5 – 20 บาท ช่วงเทศกาลที่มีความต้องการผักบุ้งจำนวนมาก ก็จะส่งผลให้ผักบุ้งมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 50 – 60 บาท ทำให้ชาวบ้านที่ปลูกผักบุ้งขายมีรายได้เสริมเข้าครัวเรือนเฉลี่ยวันละ 500 – 1,000 บาทต่อราย บางรายยึดอาชีพปลูกผักบุ้งขายมานานกว่า 10 ปี สามารถส่งลูกเรียนจนจบปริญญาตรีได้
    การปลูกผักบุ้งขายเป็นอาชีพเสริม แต่ละวันจะต้องเก็บผักบุ้งส่งให้กับร้านค้าประจำวันละ 40 กิโลกรัม โดยทางร้านจะรับซื้อประจำในราคากิโลกรัมละ 20 บาท ไม่ว่าช่วงนั้นราคาผักบุ้งจะถูกหรือแพงกว่านี้ก็ตาม ทำให้มีรายได้จากการปลูกผักบุ้งขายวันละ 800 บาท
    หลังเสร็จสิ้นจากการทำนาแล้วชาวบ้าน จะหันมาปลูกผักบุ้งขายเป็นอาชีพเสริม เพราะเป็นพืชที่มีอายุสั้นและใช้น้ำน้อย และผักบุ้งของชาวบ้านที่ปลูกยังปลอดสารเพราะใช้ปุ๋ยจากมูลสัตว์ผสมแกลบ   ทำให้เป็นที่ต้องการของตลาด  โดยแต่ละวันชาวบ้านก็จะมีออเดอร์ส่งผักบุ้งให้ลูกค้าขาประจำไม่น้อยกว่ารายละ40 กิโลกรัม หากเป็นช่วงเทศกาลก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด

วันนี้ราคาผักบุ้งขั้นต่ำ กิโลกรัมละ 15 บาท ต้นแขนงที่เกิดที่ซอกใบเลี้ยงจะเจริญเติมโตเท่าเทียมกับต้นที่เกิดจากเมล็ด ดังนั้นเราจะได้ต้นผักบุ้งเมล็ดละ 3 ต้น
เมล็ดผักบุ้ง 1 กิโลกรัม มีจำนวน 21,750 เมล็ด
เปอร์เซ็นความงอก ประมาณ 80%
ฉะนั้นเมล็ด 1 กิโลกรัม จะมีเมล็ดที่งอกประมาณ 17,400 เมล็ด
จะได้ผักบุ้ง จำนวน 52,200 ต้น
ต้นผักบุ้งอายุ 25 วัน จำนวน 50 ต้น จะมีน้ำหนัก 1 กิโลกรัม
ฉะนั้นเมล็ดผักบุ้ง 1 กิโลกรัม จะได้นำหนักต้นผักบุ้ง 1,044 กิโลกรัม ขายราคากิโลกรัมละ 15 บาท เป็นเงิน จำนวน 15,660 บาท
ในที่นี้ เราจะยกตัวอย่างการปลูกโดยใช้พื้นที่ 50 ตารางวา ซึ่งใช้เมล็ดพันธุ์ 4 – 5 กิโลกรัม
ดังนั้น เมล็ดผักบุ้ง 5 กิโลกรัม จะสามารถสร้างผลผลิตต้นผักบุ้งได้น้ำหนัก 5,220 กิโลกรัม ขายได้เป็นเงิน 78,000 บาท
ยังไม่หักค่าต้นทุนการผลิต (อย่าเพิ่งเชื่อให้ลองทำก่อน)

การปลูกผักบุ้งจีน

ผักบุ้งจีนใบไผ่นั้นสามารถปลูกได้ทั้งบนบกและในน้ำและสามารถปลูกได้ในดินแทบทุกชนิด ดินที่เหมาะสมในการปลูกผักบุ้งเพื่อการบริโภคสด จะเป็นดินร่วน หรือดินร่วนปนทราย ผักบุ้งชอบชื้นแฉะ ต้องการความชื้นในดินสูงมากอุณหภูมิที่เหมาะสมในการเจริญเติบโตอยู่ในช่วงที่สูงกว่า 25 องศาเซลเชียส ต้องการแสงแดดเต็มที ซึ่งประเทศไทยสามารถปลูกได้ดีตลอดไป โดยมีวิธีปลูกง่ายๆ คือเตรียมแปลงโดยการไถดะและ ไถแปรให้เรียบร้อย และทำการตากแดดทิ้งไว้ เพื่อกำจัดโรคแมลงพร้อมใส่ปุ๋ยคอก ปลูกแบบได้ทั้งแบบหว่านเมล็ด และแบบแยกหน่อ

การเตรียมแปลง

1. ไถและเตรียมดินที่จะปลูกให้สมบูรณ์ วัดความเป็นกรด-ด่างในดินให้มีค่า PH อยู่ที่5 -7 ถ้าไม่ได้ให้ใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมักใส่ผสมลงไปอัตรา 1–2 ตันต่อไร่ จากนั้นตากดินไว้ 7 วัน
2. ปรับไถดินด้วยรถไถคราดเศษวัชพืชออกให้ดินร่วนซุย ยกร่องเป็นแปลงปลูก ขนาด 50 ตารางวา (กว้าง 4 x 48 เมตร) ใช้เมล็ดพันธุ์ 4 – 5 กิโลกรัม

การเตรียมเมล็ด

1. นำเมล็ดแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน (ถ้าต้องการให้งอกเร็วให้ต้มน้ำให้เดือดนำไปผสมกับน้ำให้อุณหภูมิอยู่ที่ 40 องศาเซลเซียส นำเมล็ดแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน)
2. บ่มเมล็ดโดยห่อเมล็ดด้วยผ้าขาวบาง ทิ้งไว้ให้เปลือกของเมล็ดหลุดออก จากนั้นจึงนำไปหว่านในแปลงที่เตรียมไว้ เสร็จแล้วนำฟางหรือใบอ้อยหรือแกลบผสมปุ๋ยคอกมาคลุมปิดด้านบนเพื่อช่วยเก็บความชื้น

การดูแลรักษา

รดน้ำให้ชุ่ม (เช้า-เย็น) โดยรดทุกวัน ประมาณ 3 วัน ผักบุ้งจะเริ่มงอก ขึ้นมาเป็นต้นให้เห็น หลังหว่านได้ 5-7 วัน
โรค-แมลงศัตรูผักบุ้งที่พบว่ามีการระบาดในแปลงปลูกและสร้างความเสียหายให้แก่ผักบุ้ง ได้แก่ อาการใบหงิกงอ สาเหตุจากเพลี้ยเข้าทำลาย หากพบ ให้กำจัดด้วยน้ำหมักใบยาสูบ โดยจะหาซื้อใบยาสูบหยาบจากโรงงาน ราคาประมาณ กิโลกรัมละ 8-10 บาท อัตรา 10 กก. ใส่ในถังน้ำมัน 200 ลิตร เติมน้ำพอท่วม ปิดฝาถังหมักทิ้งไว้ 1 คืน นำไปฉีดพ่นให้ทั่วทุก 5-7 วัน จะช่วยกำจัดเพลี้ย สาเหตุของอาการใบหงิกได้
นอกจากนี้ยังพบว่ามี โรคราสนิมขาว เข้าทำลายผักบุ้ง ซึ่งพืชจะมีอาการเป้นจุดสีเหลืองซีดด้านบนใบ ด้านใต้-ใบตรงกันข้ามจะเป็นตุ่มนูนเล็ก ๆ ขนาด 1-2 มิลลิเมตร อาจพบลักษณะปุ่มปม หรือบวมพองโตขึ้นในส่วนของก้านใบและลำต้น บางครั้งจะเป็นจุดหลืองเล็ก ๆ และขยายใหญ่จนขาวทั้งใบ ซึ่งเชื้อโรคชนิดนี้จะพบมากในสภาพอากาศร้อนชื้น
วิธีการจัดการคือ หมั่นรดน้ำให้มากขึ้นและใช้น้ำปูนใสผสมฉีดพ่นให้ทั่วแปลงปลูก โดยจะผสมน้ำปูนใสได้จาก ปูน (ที่ใช้สำหรับเคี้ยวหมาก) 1 ช้อนแกง + น้ำสะอาด 20 ลิตร **นำปูนมาละลายในน้ำพอประมาณ และทิ้งไว้จนตกตะกอน กลายเป็นน้ำปูนใส กรองเอาเฉพาะน้ำปูนใสนำไปฉีดพ่นให้ทั่วทุก 5-7 วัน จะช่วยป้องกันและกำจัดเชื้อราสาเหตุของโรคพืชได้ และต้องดูแลระบบการให้น้ำในแปลงปลูก อย่าให้ชื้นแฉะจนเกินไป
อายุ 7-14 วัน ช่วงนี้ควรทำให้แปลงปลูกผักบุ้งปลอดวัชพืช โดยใช้วิธีกำจัดด้วยการถอนออก แล้วใส่ปุ๋ยยูเรีย 46-0-0 โดยหว่านบางๆ ลงไปในแปลงปลูกแล้วรดน้ำตามทันที ควรทำช่วงเช้ามืด

การเก็บเกี่ยว

สามารถเก็บเกี่ยวจำหน่ายได้ตั้งแต่อายุ 18-25 วัน หรือ ผักบุ้งมีขนาดลำต้น 3 หุน ยาว 30 ซม.ในฤดูร้อน และ เก็ยบเกี่ยวที่อายุ 24-25 วัน ในช่วงฤดูหนาว ซึ่งเป็นฤดูกาลที่พืชผักเติบโตช้า โดยใช้วิะธีการถอนผักบุ้งให้ได้กำละ 1 กก. นำมาล้างให้สะอาด และคัดแยกใบเสียทิ้ง บรรจุลงในถุง 5 กก. แล้วนำส่งตลาด ซึ่งจะมีพ่อค้าในพื้นที่มารับไปจำหน่ายต่อไป
เครดิต : สุรชัย พิรักษา คม ชัด ลึก
            เว็ป ไทยอินโฟเน็ต

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ผักเป็ด...หญ้าหรือผัก หรือยากันแน่

ผำ...ไข่น้ำ

วิธีการขยายพันธุ์พืช ด้วยการปักชำแบบควบแน่น